ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม
ว่าด้วยสารวัตรทหาร
พ.ศ. ๒๕๑๙
------------
ว่าด้วยสารวัตรทหาร
พ.ศ. ๒๕๑๙
------------
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหารให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้.-
ข้อ ๑. ข้อบังคับนี้เรียกว่า " ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ.ศ.๒๕๑๙ "
ข้อ ๒. ให้ยกเลิกข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ.ศ. ๒๔๙๒ และบรรดาข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง คำชี้แจงอื่น ๆ ในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในข้อบังคับนี้ หรือที่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้
ข้อ ๓. ในข้อบังคับนี้
๓.๑ คำว่า " ทหารสารวัตร " หมายถึงทหารเหล่าทหารสารวัตรที่บรรจุในอัตรากำลัง ของหน่วยต่าง ๆ
๓.๒ คำว่า " สารวัตรทหาร " หมายถึงทหารสารวัตรหรือทหารเหล่าอื่นหรือพรรคอื่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สารวัตรทหารตามคำสั่งของผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหาร
๓.๓ คำว่า " ผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหาร " หมายถึงผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร ที่มีทหารสารวัตรอยู่ในบังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดสารวัตรทหารตามที่เหล่าทัพกำหนด ในกรณีไม่มีทหารสารวัตรอยู่ในบังคับบัญชา เป็นผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารได้ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หรือตามอำนาจที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือแบบธรรมเนียมของทหาร
ข้อ ๔. สารวัตรทหารให้จัดจากทหารสารวัตร ในกรณีไม่มีทหารสารวัตรบรรจุอยู่ในอัตรากำลัง ของหน่วยหรือในเหล่าทัพใด ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดสารวัตรทหารตามที่เหล่าทัพกำหนด จัดทหารเหล่าอื่นหรือพรรคอื่นเป็นสารวัตรทหารได้
ข้อ ๕. การแต่งกายของสารวัตรทหารในขณะปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตาม กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ และแบบธรรมเนียมของทหารที่ว่าด้วยการนั้น
ข้อ ๖. เพื่อให้การรักษาระเบียบวินัยดำเนินการไปโดยเคร่งครัดรวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดี ให้สารวัตรทหารมีหน้าที่ดังนี้
๖.๑ สอดส่องตรวจตราให้ทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม อยู่ในระเบียบวินัยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
๖.๒ ว่ากล่าว ตักเตือน และจับกุม ทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่กระทำผิด
๖.๓ สืบสวนสอบสวนคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร
๖.๔ ควบคุมการจราจรในกิจการทหาร
๖.๕ รักษาความปลอดภัยทางวัตถุและอารักขาบุคคลสำคัญ
๖.๖ ปฏิบัติการเกี่ยวกับการเรือนจำทหาร และเชลยศึก ทหารพลัดหน่วย พลเรือนผู้ถูกกักกันในยามสงคราม ตามที่กฎหมาย กฎ ข้อบังคับกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
๖.๗ กำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมในวงการทหาร
๖.๘ หน้าที่อื่นตามที่กระทรวงกลาโหมหรือผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารจะกำหนด
ข้อ ๗. สารวัตรทหารมีอำนาจสอบสวนคดีอาญา ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารได้ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร
ข้อ ๘. สารวัตรทหาร มีอำนาจที่จะปฏิบัติต่อ ทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม ผู้ไม่อยู่ในระเบียบวินัย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีซึ่งอยู่ภายนอกที่ตั้งหน่วยทหารหรือสถานที่ทำงานตามควรแก่กรณีดังนี้
๘.๑ ว่ากล่าวตักเตือน
๘.๒ จับกุม
๘.๓ ตรวจค้นผู้ถูกจับกุมเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีสิ่งของที่ผิดกฎหมายหรือเพื่อใช้ในการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถ้าผู้ถูกจับกุมเป็นหญิงให้หญิงอื่นเป็นผู้ค้น
๘.๔ ยึดสิ่งของตาม ๘.๓ หรือสิงของที่อาจเป็นภัยอันตรายหรือที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการกระทำผิดนั้นได้
ข้อ ๙. ในการจับกุม สารวัตรทหารต้องแจ้งเหตุที่จะจับกุมให้ผู้จะต้องถูกจับกุมทราบ การจับกุม ให้กระทำโดยละม่อม ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เครื่องพันธนาการ หรือใช้อาวุธเพื่อป้องกันตน ก็ให้กระทำได้แต่ต้อง ไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ข้อ ๑๐. เมื่อสารวัตรทหารจับกุมผู้ใดแล้ว ให้ปฏิบัติดังนี้
๑๐.๑ รายงานให้ผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารทราบโดยเร็ว
๑๐.๒ ผู้ถูกจับกุมสังกัดอยู่ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ใน่เขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของหน่วยสารวัตรทหารที่จับกุม ให้นำตัวผู้ถูกจับกุมส่งหน่วยทหารต้นสังกัดของผู้นั้น หรือรีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกจับกุมทราบโดยเร็วเพื่อรับตัว ในกรณีนี้ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้บังคับบัญชามอบหมายไปรับตัวผู้ถูกจับกุมนั้นโดยเร็วและต้องไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง
๑๐.๓ ผู้ถูกจับกุมสังกัดอยู่ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของหน่วยสารวัตรทหารที่จับกุมให้รีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกจับกุมทราบโดยเร็วเพื่อรับตัวไปในกรณีนี้ให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ที่บังคับบัญชามอบหมายไปรับตัวผู้ถูกจับกุมนั้นโดยเร็ว และต้องไม่เกิน ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
๑๐.๔ ในระหว่างที่ยังไม่มีการรับตัว ให้สารวัตรทหารควบคุม หรือจัดการเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกจับกุมหลบหนี
ข้อ ๑๑. ในเขตพื้นที่ใดมีหน่วยทหารต่างเหล่าทัพตั้งอยู่เมื่อเห็นเป็นการสมควรนผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารในเขตพื้นที่นั้นอาจจัดสารวัตรทหารร่วมขึ้นปฏิบัติภารกิจในบังคับบัญชาของนายทหารเหล่าทัพใดก็ได้ ทั้งนี้ให้ทำความตกลงกันเป็นหนังสือ
ข้อ ๑๒. สารวัตรทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการใด ๆ ต่อบุคคลอื่นจอกจากทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมซึ่งกระทำความผิด เว้นแต่จะได้รับการร้องขอจากพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจให้ร่าวมือด้วยในเหตุผลอันสมควร หรือเป็นการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ข้อ ๑๓. ให้กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ออกระเบียบปลีกย่อยเพื่อปฏิบัติการ ให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ได้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๙
(ลงชื่อ) พลเอก ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
( ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา )
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
(ลงชื่อ) พลเอก ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
( ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา )
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น